(662) 964 4912-4

(662) 964 4915

การกำจัดหนู (RODENT CONTROL)
04/12/2012
อนุมูลอิสระและสภาวะความเครียดออกซิเดชัน
28/12/2012


ข้อมูล : เราทุ่มเทเพื่อจัดการภายใต้มาตรฐานคุณภาพสูง GMP, HACCP และ ISO 9001:2015

ข้อมูล : เราทุ่มเทเพื่อจัดการภายใต้มาตรฐานคุณภาพสูง GMP, HACCP และ ISO 9001:2015

สารต้านอนุมูลอิสระ

เอนไซม์และสารเคมีต่างๆ ที่ร่างกายสัตว์สร้างขึ้นนั้นมีปริมาณจำกัด ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยสารต้านอนุมูลอิสระจากแหล่งภายนอกร่างกาย เช่น อาหาร เพื่อรักษาสมดุลต่างๆ ในร่างกายให้ดำเนินต่อไปได้อย่างปกติ ด้วยกลไกคือ quenching oxygen reaction หรือปฏิกิริยาที่ลดพลังงานอิเล็คตรอนของออกซิเจนทำให้ไม่ไวต่อการเกิดปฏิกิริยาจับกับสารอื่น เป็นการป้องกันที่ต้นเหตุ และ chain breaking reaction หรือปฏิกิริยาที่เกิดหลังจากมี ROS แล้ว เป็นการตัดปฏิกิริยาที่เกิดต่อเนื่องของ ROS ไม่ให้มีมากขึ้น (นัยนา, 2546) สารต้านอนุมูลอิสระ ที่พบในธรรมชาติมีหลากหลายชนิด เช่น วิตามินเอ, วิตามินอี, วิตามินซี กลูตาไทโอน และสารประกอบฟีนอลิค เป็นต้น

วิตามินเอ ในรูปของเบต้าแคโรทีน (β-carotene) ซึ่งมีคุณสมบัติการละลายได้ดีในไขมัน ดังนั้นจึงสามารถเข้าไปออกฤทธิ์ในการหยุดปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมันที่เยื่อหุ้มเซลล์ โดยมีกลไกเช่นเดียวกับวิตามินอี คือจะเป็นตัวให้อะตอมไฮโดรเจน (AntH) กับอนุมูลอิสระลิปิดเปอร์-ออกซี (LOO) และอนุมูลอัลคอกซิล (ROO) จากนั้นเบต้าแคโรทีนก็จะถูกเปลี่ยนเป็นสารที่ไม่อันตรายต่อเซลล์ (Ant) (แสดงในภาพที่ 1) และขับออกจากร่างกาย (เสาวนีย์, 2542; นงนภัส, 2551)

ภาพที่ 1 กลไกการหยุดปฏิกิริยาลูกโซ่ของสารต้านอนุมูลอิสระ
ที่มา: นงนภัส (2551)

วิตามินซี มีบทบาทในการเข้ามาช่วยรีดิวซ์วิตามินอีให้กลับมาอยู่ในรูปเดิม โดยการให้ไฮโดรเจนอะตอมกับวิตามินอี ซึ่งส่งผลให้วิตามินอีกลับมามีประสิทธิภาพในการหยุดปฎิกิริยาลูกโซ่อีกครั้ง กรดแอสคอร์บิกที่ผ่านการรีดิวซ์จะกลายเป็นกรดดีไฮโดรแอสคอร์บิกที่ไม่พร้อมทำงาน จากนั้น กลูตาไทโอนในร่างกายจะทำหน้าที่รีดิวซ์กรดดีไฮโดรแอสคอร์บิกให้กลับไปเป็นกรดแอสคอร์บิกที่พร้อมทำงานเช่นเดิม (Lauren, 2008) (ดังแสดงในภาพที่ 2) วิตามินซีมีคุณสมบัติในการละลายน้ำได้ดีจึงช่วยในการทำลายอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์เติมออกซิเจนก่อนที่จะเข้าจับเยื่อหุ้มเซลล์ เพื่อไม่ให้สารเหล่านี้เข้าทำลายเซลล์ รวมทั้งสารที่ผลิตออกมาขณะเกิดกระบวนการการจับกินสิ่งแปลกปลอม (phagocytosis) และวิตามินซีมีความสามารถในการป้องกันการทำลายสภาพธรรมชาติ (denature) ของเซลล์ที่เกิดขึ้นจากสารก่อออกซิเดชันเหล่านั้น และมีบทบาทในระบบภูมิคุ้มกัน (Stankova et al., 1975)

นอกจากนี้สารประกอบฟีนอลิค ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ที่มีโครงสร้างเป็นวงแหวนอะโรมาติก (aromatic ring) ที่มีหมู่ไฮโดรซี อย่างน้อย 1 หมู่ จึงสามารถละลายน้ำได้ สารประกอบฟีนอลิคที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ กรดฟีนอลิค ฟลาโวนอยด์ และแทนนิน ซึ่งมีความสามารถในการยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระตัวใหม่ในปฏิกิริยาลูกโซ่ โดยขัดขวางการดึงอะตอมไฮโดรเจนจากโมเลกุลข้างเคียง ทำหน้าที่เป็นตัวรีดิวซ์และกำจัดออกซิเจนที่อยู่ในรูปแอคทีฟ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ในการดักจับไอออนของโลหะไว้ในโมเลกุล เช่น เหล็ก และทองแดง ซึ่งในปฏิกิริยาที่มีโลหะไอออนจะเป็นการเร่งการสลายโมเลกุลของไฮโดรเปอร์ออกไซด์ เป็นการทำให้เกิดอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น

ภาพที่ 2 ความสัมพันธ์ระหว่างวิตามินอี วิตามินซีและกลูตาไทโอน
ที่มา: Lauren (2008)

ภาพที่ 3 การยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระตัวใหม่ในปฏิกิริยาลูกโซ่ของฟลาโวนอยด์
ที่มา: Pietta (2000) 

ภาพที่ 4 ตำแหน่งการดักจับไอออนโลหะของฟลาโวนอยด์
ที่มา: Pietta (2000)

เอกสารและสิ่งอ้างอิง

นัยนา บุญทวียุวัฒน์. 2546. ชีวเคมีทางโภชนาการ. ซิกม่า ดีไซน์กราฟฟิก จำกัด, กรุงเทพฯ
นงนภัส ดวงดี. 2551. สารต้านอนุมูลอิสระ. บทความกรมวิทยาศาสตร์บริการ. แหล่งที่มา:
http://www.dss.go.th/dssweb/st-articles/files/cp_2_2551_Antioxidant.pdf, 18 พฤษภาคม 2553.
เสาวนีย์ จักรพิทักษ์. 2542. หลักโภชนาการปัจจุบัน. ไทยวัฒนาพานิชจำกัด, กรุงเทพฯ.
Lauren, A.T. 2008. Antioxidant deficiencies in hospitalized dogs and cats. World Small Animal
Veterinary Association. Available Source:
http://www.vin.com/proceedings/Proceedings.plx?CID=WSAVA2008&PID=24064&O=Generic, March 18, 2010.
Pietta, P.G. 2000. Flavonoida as antioxidants. J. Nat. Prod. 63: 1035-1042.
Stankova, L., N.B. Gerhardt, L. Nagal and H.R. Bigley. 1975. Ascorbate and phagocyte function. Infect. Immunol. 12(2): 252-256.